GainingEdge บริษัทที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมไมซ์แนวหน้าของโลกได้ยกย่องให้ “กรุงเทพฯ” เป็นเมืองจุดหมายการประชุมนานาชาติของโลกอันดับที่ 6 นำหน้ากรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากการจัดอันดับ 101 เมืองนักจัดอีเวนต์ทั่วโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเหล่าผู้ประกอบการไมซ์ไทยในการต่อกรกับวิกฤตโควิด 19 โดยผลสำรวจจัดอันดับเมืองจุดหมายการประชุมนานาชาติ 10 อันดับแรกของโลกประจำปี 2564 มีดังนี้
  1. มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส
  2. มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
  3. ประเทศสิงคโปร์ (ไม่มีเมืองหลวง)
  4. กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
  5. กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
  6. กรุงเทพฯ ประเทศไทย
  7. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
  8. เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
  9. กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
  10. กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา


        เกณฑ์การพิจารณาของ GainingEdge จะคำนวณจากดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของการเป็นจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติหรือ International Convention Destination Competitive Index ที่ซึ่งประกอบด้วยการประเมินความสะดวกสบายต่อผู้เข้าร่วมอีเวนต์ ไม่ว่าจะทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานในการเดินทางเข้าถึงเมือง และระบบโลจิสติกส์ นอกจากนี้ยังวัดจากความน่าสนใจในฐานะจุดหมายของการเดินทาง และต้นทุนการดำเนินงานของผู้วางแผน และผู้จัดงาน อีกด้วย

        อย่างไรก็ตาม การประเมินคุณภาพความสามารถดังกล่าวประจำปี พ.ศ. 2564 นั้นมีความพิเศษมากกว่าปีอื่น ๆ เพราะการวัดค่าดัชนีดังกล่าวนี้ยังคำนึงถึงแนวทางการปฏิบัติในการเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 อีกด้วย ซึ่งจะต้องจะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลักเพิ่มเติม คือ
        1. ด้านสุขอนามัยหรือ Hygiene Factors
        2. ด้านความได้เปรียบในการแข่งขันหรือ Competitive Advantages
        3. ด้านการสร้างความแตกต่างหรือ Key Differentiators

        ดังนั้น การที่ประเทศไทยก้าวขึ้นจากตำแหน่งเก่าในอันดับ 8 เมื่อปี 2563 มาสู่ อันดับที่ 6 ในปี 2564 ชี้ให้เห็นว่าความสามารถในการแข่งขันของการเป็นจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติของวงการไมซ์ไทยนั้นสูงมาก นอกจากนี้ยังบ่งบอกถึงแนวโน้มในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมไมซ์จากโควิด 19 ที่ดีขึ้นอีกด้วย

        นอกเหนือจากอันดับที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดประเทศไทยยังได้รับความไว้วางใจจากสมาคมการประชุมนานาชาติ (International Congress and Convention Association – ICCA) เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ICCA Congress 2023 อีกด้วย

        ทั้งนี้การที่กรุงเทพฯ ได้รับเลือกเป็นเมืองเจ้าภาพนั้น เกิดขึ้นจากความเชื่อมั่นว่าวงการไมซ์ไทยจะสามารถแสดงศักยภาพ “มหานครแห่งเอเชีย” ต้อนรับสมาชิก ICCA กว่า 100 ประเทศจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

        การขยับอันดับของกรุงเทพฯ ได้เกิดขึ้นในช่วงที่งานไมซ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยเริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง ทั้งยังเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กำลังมุ่งหน้าดึงดูดผู้ร่วมงานจากต่างประเทศแบบเต็มกำลัง ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ มากมาย

        หนึ่งในการดำเนินงานหลักของ TCEB คือ การสนับสนุนเหล่าผู้ประกอบการไมซ์ไทยให้มีขีดความสามารถที่สูงทัดเทียมเวทีโลกภายใต้โครงการ MICE Winnovation ซึ่งมุ่งเน้นไปยังการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ผ่านการพัฒนาให้ผู้ประกอบการใช้งานนวัตกรรม และเทคโนโลยีเข้ามาผนวกกับการจัดงานต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม 

        นอกจากนี้ โครงการ MICE Winnovation ยังได้ทำการจับคู่ธุรกิจผู้ประกอบการไมซ์กับผู้ประกอบการสายเทคโนโลยี เพื่อให้ได้ผลตอบรับที่ตรงโจทย์ และตรงใจเหล่าผู้เข้าร่วมอีเวนต์ยุคใหม่ ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานด้วยงบประมาณสนับสนุนการจัดงานอีเวนต์ทั้งในรูปแบบ Hybrid และ Virtual  อีกด้วย

        การติดอันดับต้น ๆ บนเวทีโลกในครั้งนี้ถือเป็นทั้งความสำเร็จที่ TCEB และผู้ประกอบการไมซ์ไทยทุกคนมีร่วมกันในการดำเนินงานเพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ